“สิว” คือ ภาวะของการเกิดความผิดปกติบริเวณรูขุมขนและต่อมไขมันในรูขุมขน สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกายไม่ใช่เฉพาะใบหน้าเท่านั้น อย่างไรก็ตามแท้จริงสาเหตุของการเกิดสิว ไม่ได้เกิดขึ้นจากการไม่รักษาความสะอาด แต่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ที่ส่งผลทำให้เกิดสิวได้ในหลายประเภทที่แตกต่างกันไป โดยประเภทของสิวสามารถแบ่งออกเป็น 2 หมวด ดังนี้
สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงขนาดไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร หรือสิวที่มีตุ่มหนองอยู่บริเวณหัว เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า P.Acnes ไปกระตุ้นการทำงานใต้ผิวหนัง รวมทั้งระดับฮอร์โมนในร่างกายที่อยู่ในภาวะไม่สมดุล ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้เกิดสิวอักเสบโดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. สิวตุ่มแดง (Papule) จะเป็นสิวหัวแดง หรือสิวแดงกลม ๆ ขนาดเล็กไม่เกิน 0.5 ซม. เมื่อสัมผัสหรือลูบที่หน้าจะรู้สึกนูน เป็นไตแข็งใต้ผิวหนัง ผิวไม่เรียบเนียน ไม่มีหัวหรือหนอง รู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัส อาจเกิดได้จากการติดเชื้อแบคทีเรียผสมกับการอุดตันของรูขุมขน
2. สิวหัวหนอง (Pustule) มีลักษณะเป็นตุ่มสิวแดง ๆ ตรงกลางจะมีจุดสีขาวเหลือง ซึ่งจุดสีขาวเหลือง คือหนองที่เกิดภายใต้ผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย สิวหัวหนองเกิดจากแบคทีเรียพร้อมกับการอุดตันของรูขุมขน หรืออาจพัฒนามาจากสิวอุดตัน ที่ถูกรบกวนจากการสัมผัส แกะ บีบ
3. สิวหัวช้าง หรือสิวตุ่มแดงใหญ่ (Nodule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดใหญ่ เวลาสังเกตหรือสัมผัสจะรู้สึกว่ามีก้อนขนาดใหญ่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อสัมผัสผิวหนังบริเวณที่อักเสบจะรู้สึกแข็งเป็นไต สาเหตุของการเกิดสิวหัวช้างมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ลุกลามเข้าไปถึงชั้นผิวหนังที่ลึกขึ้น ทำให้กลายเป็นสิวหัวช้างที่มีการอักเสบรุนแรง สามารถลุกลามให้เกิดการอักเสบได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหัวสิว
สิวที่ไม่มีการอักเสบ หรือสิวอุดตัน (Non-Inflammatory Acne) เกิดจากสิวอุดตันหรือสิวไขมันอุดตัน คือ สิวไม่อักเสบประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นสิวหัวนูนออกมาจากผิวหนัง เมื่อจับไปจะรู้สึกถึงความไม่เรียบ เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนบนผิวหนัง บางครั้งสิ่งอุดตันที่เราเรียกกันว่าหัวสิว ก็โผล่ออกมาให้เห็นได้จากภายนอกเช่นกัน มีด้วยกันทั้งหมด 2 ชนิด ได้แก่
1. สิวอุดตันหัวเปิดหรือสิวหัวดำ (Blackheads) จะมีลักษณะเป็นสิวหัวดำแข็ง สามารถเห็นหัวสิวได้จากภายนอก ในระยะ หัวสิวของสิวอุดตันหัวดำจะเห็นเป็นสีขาวเหลือง ซึ่งเป็นสีของเคราตินและไขมัน แต่เมื่อหัวสิวสัมผัสกับอากาศระยะหนึ่ง หัวสิวจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ และเปลี่ยนสีเป็นสีดำ
2. สิวอุดตันหัวปิดหรือสิวหัวขาว (Whiteheads) มีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็กหัวขาว ไม่สามารถมองเห็นหัวสิวได้จากภายนอก แต่เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าเป็นปุ่มนูนขึ้นมาเกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน
ทั้งนี้สิวเกิดขึ้นได้ทั้งในบริเวณใบหน้า หน้าอก หลังช่วงบน ไหล่ ซึ่งเป็นบริเวณที่ต่อมไขมันทํางานมาก โดยสาเหตุของการเกิดสิว ยังไม่มีสาเหตุอย่างแน่ชัด แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกายจะมีผลต่อการเกิดสิว และยังมีปัจจัยอื่นที่อาจมีผลต่อการเกิดสิว เช่น กรรมพันธุ์ อารมณ์ อาหาร อากาศ ยา โดยรวมแล้วสามารถแบ่งปัจจัยหลักได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่
ปัจจัยภายในร่างกาย คือ ปัจจัยที่เกิดจากร่างกายเราเอง เช่น ระดับฮอร์โมน การตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมน กรรมพันธุ์ โรคเรื้อรัง และผิวพรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กําเนิด
ปัจจัยภายนอก คือ ปัจจัยที่เกิดขึ้นจากนอกร่างกายของเรา เช่น ยา ครีม และเครื่องสําอางบางชนิด สภาพแวดล้อม แสงแดดและอุณหภูมิ และอาหาร ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด โดยใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาด แล้วตามด้วยเจลล้างหน้า ที่ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง และทำให้เกิดสิวใหม่ ขึ้นมาซ้ำได้อีก ที่สำคัญคือ ต้องควรทาครีมกันแดด ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ที่เป็นอันตราย และดูแลให้ผิวมีสุขภาพดี ไปอย่างยาวนาน
